เป่ากบ
วิธีการเล่น
เป่ากบเป็นการเล่นอย่างหนึ่งของเด็ก
เล่นกันทั้งเด็กชายและหญิง ผู้เล่นมีจำนวน ๒ คน หรือเป็นทีมก็ได้ สถานที่เล่น
ในที่ร่ม ใช้พื้นที่เรียบ ๆ เช่น พื้นซีเมนต์ พื้นกระดาน หรือพื้นโต๊ะ ซึ่งผู้เล่นจะเอายางเส้น (ยางวง)
จะเป็นวงเล็กหรือวงใหญ่ หรืออาจจะเป็นวงสีต่าง ๆ อยู่ที่ความชอบ ได้แก่ สีเขียว
สีแดง สีน้ำตาล เป็นต้น นำมาวางบนพื้นคนละ ๑ เส้น ให้อยู่ห่างกันประมาณ ๑ ฟุต
ผู้เล่นจะผลัดกันเป่ายางเส้น (ยางวง) ของตนไปข้างหน้าทีละน้อย ๆ
จนยางเส้นทั้งสองมาอยู่ใกล้กันผุ้เล่นคนใดเป่าให้ยางเส้นของตนไปทับยางเส้นของ ฝ่ายตรงข้ามได้ก็จะเป็นผู้ชนะ
ฝ่ายแพ้จะต้องจ่ายรางวัลให้กับผู้ชนะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นยางเส้น (ยางวง)
แต่อาจให้รางวัลอื่น ๆ ก็ได้ตามแต่จะตกลงกัน
โอกาสหรือเวลาที่เล่น
การเล่นเป่ากบของเด็ก
ส่วนใหญ่เล่นกันในเวลาที่ว่าง และมีอุปกรณ์พร้อมที่จะเล่นกันทั้งสองฝ่าย
คุณค่า / แนวคิด/ สาระ
๑. การเล่นเป่ากบ
เป็นการเล่นที่ให้ความสนุกสนานแล้วยังเป็นการฝึก การรู้กำหนดจังหวะและกะระยะด้วย๒.
การเล่นเป่ากบเป็นการฝึกสังเกต ไหวพริบในการเป่าของคู่ต่อสู้
ซึ่งจะเป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้เด็กรู้จักคิดให้รอบคอบก่อนที่จะเป่า
ถ้าเป่าโดยไม่คิดอาจจะผิดพลาดได้ จนทำให้ต้องแพ้
๓. เป็นการฝึกเด็กรู้จักความรัก ความสามัคคี
ชักกะเย่อ
อุปกรณ์
เชือกเส้นใหญ่ๆ ๑ เส้น สำหรับจับดึงกัน
วิธีเล่น
จัดคนเล่นออกเป็น ๒ พวก ให้มีกำลังพอๆ กัน
เมื่อแบ่งพวกเสร็จแล้ว ให้ไปอยู่คนละข้างของไม้หรือเชือกนั้น
ให้คนหัวแถวจับก่อนข้างละคน นอกนั้นให้จับเอวกันตลอดทั้งสองข้าง เมื่อให้สัญญาณแล้วต่างฝ่ายก็ลงไปข้างหลังทุกคนระเบียบการตัดสิน
ใช้ตัดสินกันเองหรือให้มีผู้ตัดสิน ๑ คน ยืนตรงกลางให้สัญญาณและตัดสินได้
เพื่อให้รู้แน่ว่าฝ่ายใดแพ้ชนะจะปักธงไว้ตรงกลางก็ได้
ฝ่ายใดถูกดึงเลยเขตได้หมดตั้งแต่หนึ่งศอกขึ้นไปนับเป็นแพ้
เมื่อแพ้แล้วไม่มีปรับให้ร้องรำอย่างใดเลย
โอกาสที่เล่น
เล่นแข่งขันในงานกิจกรรมต่างๆ
หรือในเทศกาลพิเศษ
คุณค่า/แนวคิด/สาระ
เพื่อออกกำลังและรับความรื่นเริงในเมื่อแพ้ชนะกันเท่านั้น
ขุมหมาก
อุปกรณ์ในการเล่น
๑). รางหมากขุม เป็นรูปเรือทำจากไม้ ยาวประมาณ
๑๓๐ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๒๐ เซนติเมตร มีหลุมเรียงเป็น ๒ แถว หลุมกว้างประมาณ ๗
เซนติเมตร ลึกประมาณ ๔ เซนติเมตร
มีด้านละ ๗ หลุม เรียกหลุมว่า เมือง
หลุมที่อยู่ปลายสุดทั้งสองข้างเป็นหลุมใหญ่กว้างประมาณ ๑๑ เซนติเมตร เรียกว่า
หัวเมือง
๒) ลูกหมาก นิยมใช้ลูกสวดเป็นลูกหมาก
ใส่ลูกหมากหลุมละ ๗ ลูก จึงต้องใช้ลูกหมาก ในการเล่น ๙๘ ลูก
๓) ผู้เล่นมี ๒ คน
วิธีการเล่น
๑) ผู้เล่นนั่งคนละข้างกับรางหมากขุม
แต่ละคนใส่ลูกหมากหลุมละ ๗ ลูก ทั้ง ๗ หลุม
ส่วนหลุมหัวเมืองไม่ต้องใส่ให้เว้นว่างไว้
๒) การเดินหมาก ผู้เล่นจะเริ่มเดินพร้อมกันทั้ง
๒ ฝ่าย เรียกว่า แข่งเมือง โดยหยิบลูกหมากจากหลุมเมืองของตนหลุมใดก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะหยิบหลุมสุดท้ายของฝ่ายตนเอง
เพราะคำนวนว่าเม็ด
สุด ท้ายจะถึงหัวเมืองของตนพอดี
การเดินหมากจะเดินจากขวาไปซ้าย โดยใส่ลูกหมากลงในหลุม
ถัดจากหลุมเมืองที่หยิบลูกหมากขึ้นมาเดิน ใส่ลูกหมากหลุมละ ๑ เม็ด
รวมทั้งใส่หลุมหัวเมือง
ฝ่าย ตนเอง แล้ววนไปใส่หลุมของฝ่ายตรงกันข้าม
ยกเว้นหลุมหัวเมือง เมื่อเดินลูกหมากเม็ดสุดท้ายใส่ในหลุม
ให้หยิบลูกหมากทั้งหมดในหลุมนั้นขึ้นมาเดินหมากต่อไป โดยใส่ในหลุมถัดไป
เล่น
เดินหมากอย่างนี้จนลูกหมากเม็ดสุดท้ายหมดลงในหลุมที่เป็นหลุมว่าง ถือว่าหมากตาย
ถ้าเดินหมากตายในหลุมเมืองของฝ่ายตรงข้ามก็ถือว่าสิ้นสุดการเดินหมาก แต่ถ้า
ตาย ในหลุมเมืองฝ่ายตนเอง
ให้ผู้เล่นกินหมากหลุมเมืองซึ่งอยู่ตรงข้ามกับหลุมที่เราเดินหมากมาตาย
โดยควักลูกหมากทั้งหมดในหลุมไปไว้ในหลุมหัวเมืองของฝ่ายตน เรียกว่ากินแทน
เล่น อย่างนี้จนหลุมเมืองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดลูกหมาก
เดินต่อไปไม่ได้ ลูกหมากทั้งหมดจะไปรวมอยู่ในหลุมหัวเมืองของทั้ง ๒ ฝ่าย
จึงเริ่มเล่นรอบใหม่ต่อไป
๓) การเดินหมากรอบสอง
ผู้เล่นจะผลัดกันเดินทีละคน ทำเช่นเดียวกับการเดินรอบแรก
นำลูกหมากจากหลุมหัวเมืองฝ่ายตนเองใส่ลงในหลุม ๆ ละ ๗ ลูก ในฝ่ายของตนเอง
คราวนี้แต่ละฝ่าย
จะ มีลูกหมากไม่เท่ากัน
ฝ่ายที่มีลูกหมากมากกว่าจะเป็นผู้เดินหมากก่อน
ฝ่ายที่มีลูกหมากน้อยกว่าจะใส่ไม่ครบทุกหลุม
หลุมใดมีไม่ครบให้นำลูกหมากที่เหลือไปใส่ในหลุมหัวเมืองฝ่ายตน
หลุม ใดไม่มีลูกหมากเรียกว่า เมืองหม้าย
ตามปกติหลุมเมืองหม้ายจะปล่อยไว้หลุมปลายแถว หลุมเมืองหม้ายจะไม่ใส่ลูกหมาก
ถ้าฝ่ายใดใส่จะถูกริบเป็นของฝ่ายตรงกันข้าม ในกากรเล่นจะ
เล่นจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดลูกหมากเดินต่อไปไม่ได้และจะนับเมืองหม้าย
ใครมีจำนวนเมืองหม้ายมากกว่าฝ่ายนั้นเป็นฝ่ายแพ้
โอกาสหรือเวลาในการเล่น
การเล่นหมากขุมจะเล่นในยามว่างจากการงาน
เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นพักผ่อนหย่อนใจ จึงเล่นได้ทั้งวัน
คุณค่า สาระ แนวคิด
๑. การเล่นหมากขุม มีคุณค่าในการฝึกลับสมอง
การวางแผนการเดินหมากจะต้องคำนวน จำนวนลูกหมากในหลุม ไม่ให้หมากตาย
และสามารถกลับมาหยิบลูกหมากในหลุมของตนเองได้อีก
ผู้ เดินหมากขุมจึงต้องมีสายตาว่องไว
คิดเลขเร็ว เป็นการฝึกวิธีคิดวางแผนจะหยิบหมากในหลุมใดจึงจะชนะฝ่ายตรงกันข้าม
เป็นการฝึกให้ผู้เล่นรู้จักคิดวางแผนในการทำงานทุกอย่าง
สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
๒. เป็นการพักผ่อนหย่อนใจ นันทนาการภายในบ้าน
ภายในชุมชน ให้ทั้งความสนุกสนาน และความใกล้ชิดระหว่างพี่น้อง ญาติมิตร
๓.
ก่อให้เกิดการประดิษฐ์รางหมากขุม ที่มีความสวยงามและประณีต
เป็นความภาคภูมิใจของผู้สร้างชิ้นงาน
และยังสามารถสร้างรายได้ในการจำหน่ายรางหมากขุม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น